โรคไขกระดูกบกพร่อง เกิดจากอะไร รักษาได้ด้วยวิธีใด ? โรคไขกระดูกเสื่อม ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม
ตกเป็นข่าวดังข้ามคืนสำหรับอดีตดารานักแสดงชื่อดัง “นิ้ง” กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด ร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่งจึงเข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ โดยแพทย์ระบุว่าเป็น “โรคไขกระดูกบกพร่อง”
ลักษณะ อาการของโรค
เกิดจาก "ไขกระดูก "ไม่สามารถสร้างเกล็ดเลือดได้ด้วยตัวเองส่งผลให้กระบวนการสร้างเม็ดเลือดผิดปกติทั้งเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว รวมถึงเกล็ดเลือด สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไขกระดูกบกพร่องมีหลักฐานสนับสนุนว่าส่วนมากเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ทั้งชนิดกลายพันธุ์และการขาดหายไปของยีนส์
นอกจากนี้ยังพบว่าการได้รับยาเคมีบำบัดบางชนิดและการได้รับการฉายรังสียิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอีกด้วย ผู้ป่วยมักมีอาการเลือดออกง่าย, มีจ้ำเลือด, เลือดจางโดยไม่ทราบสาเหตุ, อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย โดยปกติแล้วไขกระดูกเป็นอวัยวะสำคัญคอยทำหน้าที่สร้างเซลล์ 3 ชนิด ได้แก่
1. เม็ดเลือดแดง : ทำหน้าที่นำออกซิเจนส่งไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
2. เม็ดเลือดขาว : ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรค หากร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดขาวน้อย จะทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อได้ง่ายโดยเฉพาะเชื้อรา และแบคทีเรีย
3. เกล็ดเลือด : มีหน้าที่ห้ามเลือด หากร่างกายสร้างเกล็ดเลือดลดลงจะส่งผลให้มีจุดเลือดออกตามตัว
จะเห็นได้ว่าหน้าที่ของเซลล์เม็ดเลือดทั้ง เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว รวมถึงเกล็ดเลือด ล้วนแล้วแต่สำคัญต่อกระบวนการหล่อเลี้ยง และปกป้องร่างกายของเรา เมื่อทุกส่วนทำงานผิดปกติแน่นอนว่าย่อมส่งผลโดยตรงต่อร่างกาย
นายแพทย์ ธานินทร์ อินทรกำธรชัย อดีตนายกสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีโรคไขกระดูกบกพร่อง ว่ามีอยู่ 2 โรค คือ 1.ไขกระดูกฝ่อ เกิดจากสเต็มเซลล์ไม่สร้างเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด กับอีกกรณี คือ 2.สเต็มเซลล์ ยังไม่ฝ่อแต่ทำงานผิดปกติ มีการสร้างเม็ดเลือดต่ำ ซึ่งมีโอกาสเปลี่ยนเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน หรือลูคีเมียได้
ซึ่งทั้ง 2 โรค"รักษายาก" แต่ก็รักษาได้ขึ้นอยู่กับอายุคนไข้ โดยหากอายุยังไม่มากสามารถรักษาได้ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกจากพี่น้องท้องเดียวกัน หรือบุคคลอื่นที่เข้ากันได้ หากอายุมากแล้วก็ให้รับยาแอนติ บอดี้ ซึ่งได้ผลดีพอสมควร หรือคล้ายเคมีบำบัดที่ต้องให้เป็นรอบ ๆ
นพ. ธานินทร์ ยังกล่าวต่ออีกว่า "โรคไขกระดูกบกพร่อง" ไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน แต่ไม่ใช่โรคทางกรรมพันธุ์แต่อย่างใด แนะนำให้ประชาชนตรวจร่างกายประจำปีเพื่อหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด หากพบเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ต่ำเป็นระยะเวลานานเป็นเดือน ให้รีบมาพบแพทย์ด้านโลหิตวิทยาในทันที หรือในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการแล้วก็ให้รีบมาตรวจวินิจฉัยยืนยันด้วยวิธีการตรวจไขสันหลัง เพื่อหาวิธีรักษาต่อไป
การหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำถือเป็นเรื่องสำคัญเพื่อที่ว่าเป็นการเช็คร่างกายให้แน่ใจว่าแข็งแรงเป็นปกติดี แต่หากมีความผิดปกติขึ้นก็จะช่วยให้รู้ถึงอาการหรือสัญญาณได้ล่วงหน้าเพื่อจะได้หาวิธีป้องกันเสียแต่เนิ่น ๆ หรือหากรู้ว่าเป็นโรคจะได้รักษาได้ทันท่วงที
เพราะต้องไม่ลืมว่าต่อให้เราดูแลร่างกายเป็นอย่างดีทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนที่เพียงพอ รวมถึงการไม่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่ ก็ตาม แต่โรคภัยไข้เจ็บไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ไปตลอด
ขอขอบพระคุณนายแพทย์ ธานินทร์ อินทรกำธรชัย อดีตนายกสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย