" ฟัง พูด อ่าน เขียน” เป็นทักษะที่เด็กทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้และหมั่นฝึกฝนให้ชำนาญ เพื่อให้ลูกหัดโต้ตอบ รวมทั้งเข้าใจการสื่อสารกับผู้อื่น ดังนั้น หากลูกมีปัญหาในทักษะด้านใดด้านหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบแก้ปัญหาในจุดนั้นๆ ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับลูกรักในระยะเวลาที่นานเกินไป จนยากที่จะแก้ไข
จุดสังเกต! สัญญาณอาการที่ลูกมีปัญหาในทักษะด้านการอ่าน
เด็กวัย 3 – 4 ขวบ
ลูกจำตัวอักษรได้น้อยกว่า 10 ตัว : ลูกไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของตัวอักษรได้
ลูกไม่กล้าอ่านออกเสียง : ลูกเกิดความกลัวในการอ่านหนังสือแบบออกเสียง และกลัวการอ่านผิดมากๆ ทำให้เด็กไม่กล้า และไม่อยากอ่านหนังสือออกเสียง
ลูกพูดน้อย หรือไม่อยากพูด : ลูกไม่อยากออกเสียง หรือพูดกับใคร ไม่แสดงความสนใจที่จะอยากเรียนรู้ด้านภาษา
เด็กวัย 4 – 5 ขวบ
ลูกไม่สามารถแยกเสียงของแต่ละคนได้ : ไม่สามารถจดจำ หรือแยกแยะเสียงสูง – ต่ำ ของคนที่คุยด้วยได้
ลูกจำชื่อตัวอักษรเป็นเวลานาน : ต้องใช้เวลานานกว่าลูกจะเรียนรู้ในการจดจำตัวอักษรได้ทั้งหมด
ลูกแบ่งคำพยางค์ไม่เป็น : ลูกไม่สามารถสร้างคำ และประโยคที่สมบูรณ์ได้
คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นคุยกับลูกบ่อยๆ : เพื่อสังเกตพัฒนาการ รวมทั้งปัญหาด้านการเรียนรู้ของลูกอย่างใกล้ชิด
เด็กวัย 5 – 5.5 ขวบ
ลูกไม่สามารถพูด หรือสร้างคำที่เรียบง่ายได้ : บางครั้งลูกเลือกใช้คำพูดยากๆ ในการสร้างประโยค อาจทำให้สื่อความหมายในทางที่ผิดได้ และมักจะเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
ลูกไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก : สับสนในตัวอักษรภาษาอังกฤษ จนบางครั้งลูกอาจใช้สลับกัน
เด็กวัย 5.5 – 6 ขวบ
ลูกไม่สามารถบอกถึงเสียงแรกของคำที่พูดออกมาได้ : ลูกมีปัญหาในการแยกแยะเสียงที่ถูกเปล่งออกมา แยกความแตกต่างของเสียงไม่ได้ ยิ่งทำให้ไม่เข้าใจความหมาย
ลูกออกเสียงคำไม่ตรงกับตัวอักษร : ส่วนใหญ่มีปัญหาในการออกเสียงตัวอักษรที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไป หรือคำที่พูดออกมานั้นอาจไม่มีความหมาย
ลูกต้องใช้ความพยายามมาก เพื่อสะกดชื่อสมาชิกในครอบครัว และสัตว์เลี้ยง : ใช้เวลานานในการจำและสะกดชื่อ บางครั้งลูกก็สะกดชื่อผิด
เด็กวัย 6 – 7 ขวบ
ลูกพยายามอ่านออกเสียงให้ตรงกับตัวอักษร : เด็กวัยนี้มักชอบการอ่านออกเสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในพัฒนาการด้านการอ่าน ลูกจะค่อยๆสะกดคำ ทีละคำ เพื่อให้ออกเสียงตรงกับตัวอักษร
ลูกไม่สามารถบอกว่าตัวเองอ่านคำไหนผิด : เมื่อลูกอ่านหนังสือ 1 ประโยค แล้วอ่านคำใดคำหนึ่งผิด พวกเขาจะไม่รู้ว่าจุดที่อ่านผิดคือจุดไหน
ลูกไม่เข้าใจความหมายของคำที่อ่านออกเสียงไป : การที่ลูกอ่านหนังสือออกเป็นเรื่องดี แต่ถ้าลูกไม่เข้าใจความหมายของตัวอักษรนั้นว่าต้องการสื่ออะไรก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน
เด็กวัย 7 – 8 ขวบ
ลูกพยายามอ่านออกเสียงให้ได้อย่างราบรื่น : เด็กจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการอ่านมาก โดยจะพยายามอ่านทุกคำให้ถูกต้องและไม่ตะกุกตะกัก
ลูกไม่สามารถออกเสียงคำให้ถูกต้องทีละพยางค์ได้ : ลูกไม่สามารถออกเสียงคำในประโยคให้ถูกต้องทั้งประโยค
เป็นวัยที่หลีกเลี่ยงการอ่านออกเสียงออกมาดัง ๆ : เด็กวัยนี้มักชอบการอ่านในใจ และไม่ชอบอ่านออกเสียงดังๆในที่สาธารณะ เพราะพวกเขาจะรู้สึกอายเมื่ออ่านผิด
เด็กวัย 8 – 9 ขวบ
ลูกพยายามแสดงความคิดหลักของตนเอง : เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่จะมีความคิดเป็นของตัวเอง และพยายามแสดงมันออกมาในกลุ่มเพื่อน
ลูกมักสะกดคำที่เคยเรียนไปแล้วผิด : ลูกได้เรียนรู้คำต่างๆเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งคำที่สะกดยากๆ จึงอาจสับสนกับคำที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ลูกมักชอบสะกดคำผิดบ่อยๆ
ลูกมักจะหลีกเลี่ยงการอ่านข้อความที่ยาวขึ้น : ลูกไม่ชอบอ่านประโยคที่มีความยาวมากๆ เช่น ความเรียง , นิยาย เป็นต้น
ปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมด หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นพฤติกรรมของลูก 2 อย่าง หรือมากกว่านั้น แสดงว่า มันคือการเริ่มต้นของสัญญาณที่บอกว่าลูกของคุณเข้าข่ายมีปัญหาด้านการอ่านหนังสือ